วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2550

วัยรุ่นกับไอที


วัยรุ่น'07มองไอที"เครืองมือสร้างเครือข่าย"
โดย ผู้จัดการออนไลน์
26 กรกฎาคม 2550 22:02 น.



ผลวิจัยจากไมโครซอฟท์และเอ็มทีวีชี้ แนวคิดของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของเด็กในโลกอุดมคติกับโลกแห่งความเป็นจริงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง 16 เปอร์เซ็นต์ของเด็กยุคใหม่มองเว็บไซต์ และโทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือในการ "สร้างเครือข่ายทางสังคม" มากกว่าจะเป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีอีกต่อไป แอนดรูว์ เดวิดสัน (Andrew Davidson) ผู้บริหารในเครือ MTV กล่าวว่า "เด็กวัยรุ่นมองว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา ไม่ใช่เป็นแค่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปอีกแล้ว การพูดคุยกับเด็กเหล่านี้เกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ไม่ต่างกับการคุยกับเด็กในยุค 1980 เกี่ยวกับสวนสนุก หรือการใช้โทรศัพท์เด็กเล่น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่จับต้องไม่ได้" ผลการสำรวจนี้ได้สอบถามมาจากผู้มีอายุระหว่าง 8 - 24 ปี และเผยแพร่ภายใต้ชื่อของไมโครซอฟท์และเอ็มทีวีเน็ตเวิร์ก คณะผู้สำรวจได้ทำการสัมภาษณ์เด็ก ๆ จำนวน 18,000 คนใน 16 ประเทศ โดยส่วนหนึ่งเป็นเด็กในประเทศยักษ์ใหญ่เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น แคนาดา เม็กซิโก ฯลฯ เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีของเด็กยุคใหม่ ซึ่งประเด็นการใช้เทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับใช้งานในกลุ่มวัยรุ่นมากที่สุดเป็นเรื่องของเทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์แบบไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การ "ดาวน์โหลด" (Download) และการ "เบิร์น" (Burn) จากผลการสำรวจพบว่า ทัศนคติของวัยรุ่นในภูมิภาคที่แตกต่างกันมีผลต่อแนวคิดที่เด็กวัยรุ่นมีต่อเทคโนโลยีด้วย เช่น วัยรุ่นจีนจะมีเพื่อนทางอินเทอร์เน็ตที่พวกเขาไม่เคยพบหน้ามาก่อนประมาณ 37 คน (ค่าเฉลี่ย) ขณะที่วัยรุ่นอินเดียมองว่าโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์บ่งบอกสถานะทางสังคม หรือเด็กวัยรุ่น 1 ใน 3 ของอังกฤษและสหรัฐอเมริกาบอกว่าพวกเขาไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถ้าหากขาดเครื่องเล่นเกมคอนโซล "เราพบว่าแนวทางการใช้หรือปรับเทคโนโลยีให้เข้ากับวิถีชีวิตประจำวันของประชากรในแต่ละภูมิภาคนั้นไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรม บวกกับความสามารถทางเทคโนโลยีที่สามารถทำได้" เดวิดสันกล่าวพร้อมยกตัวอย่างการใช้โทรศัพท์มือถือในญี่ปุ่นว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับวัยรุ่น เนื่องจากสามารถพกพาสะดวก และมีความเป็นส่วนตัว ขณะที่โปรแกรมแชตออนไลน์ หรือการมีเพื่อนทางอินเทอร์เน็ตที่ไม่เคยพบหน้ามาก่อนของเด็กญี่ปุ่นกลับไม่ได้รับความนิยม ค่าเฉลี่ยของเด็กญี่ปุ่นช่วงอายุ 8 - 14 ปีมีเพื่อนออนไลน์ที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อนเพียง 1 คนเท่านั้น หากหันไปดูตัวเลขนี้จากเด็กวัยรุ่นจีนพบว่า เด็กจีนที่มีอายุช่วงเดียวกันกลับเลือกเล่นอินเทอร์เน็ตมากกว่าดูทีวี ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ประหลาดมากเมื่อเทียบกับกลุ่มอายุเดียวกันในประเทศอื่น ๆ ผู้สำรวจยังเปิดเผยอีกด้วยว่า โดยทั่วไปแล้วเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีจะชอบดูทีวี ฟังเพลง และรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อน ๆ เป็นหลัก นอกจากนั้นคณะสำรวจยังพบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มเด็กวัยรุ่นในการใช้เทคโนโลยีมากที่สุดอยู่ที่ "โฆษณา" นั่นเอง "กลุ่มเด็กวัยรุ่นในวันนี้เป็นตลาดใหม่ของวงการดิจิตอลที่มีขนาดใหญ่มากกว่าในอดีต" เดวิดสันกล่าวในที่สุด เรียบเรียงจากรอยเตอร์

เดสก์ทอปเดลล์ตัวใหม่ออกแล้ว


เดสก์ทอปเดลล์ OptiPlex 755

เดลล์เสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วย OptiPlex 755 ที่ให้ความยืดหยุ่นในการจัดการระบบที่เหนือกว่า และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยม OptiPlex 755 ยังช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม ด้วยมาตรฐาน Energy Star 4.0

สุดยอดผลิตภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่นด้านการจัดการระบบสูงและดูแลรักษาได้สะดวกกว่า
ด้วยระบบจัดการที่ยืดหยุ่นที่สุดในตลาด ทำให้ OptiPlex 755 ช่วยลดภาระหน้าที่ของฝ่ายไอทีลงได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกไปบริการและบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ถึงโต๊ะทำงาน นอกจากนี้ เดลล์ ยังได้ผสานรวมเทคโนโลยี Intel vPro ที่มีคุณสมบัติสำหรับจัดการระบบจากทางไกล ทำให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยมโดยลูกค้าสามารถจัดการกับระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้เปิดเครื่องหรือยังไม่ได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการได้อย่างสะดวก ลดเวลาในด้านการตรวจสอบชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆ ลงได้กว่า 94 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับการจัดเก็บข้อมูลด้วยมือ อีกทั้งยังช่วยลดจำนวนครั้งที่ต้องออกไปแก้ไขปัญหา ณ ตัวเครื่องได้ถึง 56 เปอร์เซ็นต์
OptiPlex 755 ให้ความยืดหยุ่นแก่ลูกค้าในการเลือกโซลูชันที่เหมาะกับการใช้งานในองค์กร และสามารถรองรับการขยับขยายงานได้อย่างเหมาะสม:


• เป็นโซลูชันเดียวในตลาดที่นำเสนอแพลตฟอร์มซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้เทคโนโลยี vPro ได้เพิ่มเติมในภายหลังเมื่อพร้อมใช้งาน• Dell Client Manager (DCM) Standard ที่ให้ความสามารถในการควบคุมจัดการระบบได้ตลอดอายุการใช้งานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม• รองรับโซลูชันชั้นนำในตลาดด้านการจัดการระบบจากบริษัทอื่นๆ ทั้ง Altiris, Microsoft และ LanDesk ที่ทำให้การทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จัดการทำได้สมบูรณ์ขึ้น
และเมื่อจำเป็นต้องให้บริการหรือแก้ไขปัญหา ณ สถานที่ จำนวนขั้นตอนที่ใช้ในการถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนบนเดสก์ทอป OptiPlex ยังน้อยกว่าเดสก์ทอปประเภทเดียวกันจากฮิวเล็ตต์แพ็กการ์ดถึงกว่าครึ่งหนึ่งเดลล์เสริมความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม


OptiPlex 755 ช่วยย้ำความชัดเจนของเดลล์ในด้านการเป็น "ผู้ผลิตที่ใช้เทคโนโลยีอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด" ด้วยการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนผ่านเทคโนโลยีจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำในตลาดที่รองรับมาตรฐาน Energy Star 4.0 และมีคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปสำหรับธุรกิจที่ได้รับมาตรฐานโกลด์ จาก EPEAT มากที่สุดด้วย โดย OptiPlex 755 และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากเดลล์ยังมาพร้อมกับระบบกำหนดค่าพลังงาน Energy Smart ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงได้สูงสุดถึงกว่า 78 เปอร์เซ็นต์2 ด้วยบริการ ImageDirect เพื่อลดแรงงานและต้นทุนในการจัดการซอฟต์แวร์อิมเมจ


บริการ ImageDirect จากเดลล์ กำลังให้บริการในเร็วๆ นี้ และถือเป็นบริการแรกในตลาดที่ใช้เทคโนโลยีจากสิทธิบัตร (รอการอนุมัติ) กว่า 12 รายการ เพื่อลดจำนวนซอฟต์แวร์อิมเมจ (software image) ที่ลูกค้าต้องจัดการในระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กร พร้อมความสามารถในการสร้างอิมเมจต้นฉบับครั้งเดียวแต่รองรับมากถึง 9 ภาษา และมีแอพพลิเคชันที่สามารถปรับแต่งตัวเลือกต่างๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละแผนกได้ ที่สำคัญเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่อิมเมจต้นฉบับ คุณสมบัติดังกล่าวก็จะอัพเดตส่วนอื่นๆ ให้เหมือนกับต้นฉบับโดยอัตโนมัติด้วย ช่วยลดเวลาและต้นทุนที่ต้องใช้ในการดูแลอิมเมจ และทำให้ติดตั้งระบบใหม่ได้อย่างรวดเร็วขึ้นราคาและกำหนดการวางจำหน่าย
เดลล์ วางแผนเพิ่มเติมความสามารถเรื่องระบบการจัดการสำหรับโน้ตบุ๊ก โดยโน๊กบุ๊กรุ่นแรก ที่เดลล์จะเสริมความสามารถซอฟต์แวร์ระบบจัดการ คือ Latitude™ D630c ใช้ชิปอินเทล เซนทริโน เทคโนโลยี ในเดือนตุลาคมนี้


OptiPlex 755 พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ สนนราคาเริ่มต้นที่ 28,235 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าจัดส่งแล้ว) นอกจากนี้ยังมีบริการรับประกันให้ถึง xxx ปี ที่ทำให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างมั่นใจ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเรียกดูได้ที่ www.dell.com หรือโทร 1800-006-009 และหากสนใจกลยุทธ์ด้านการประหยัดพลังงานของเดลล์ ก็สามารถแวะชมได้ที่ www.dell.com/energy

วิเคราะห์ IT

ปัจจุบันนี้คลื่นลูกใหม่ของ application บนเครือข่ายสำหรับยุคโลกาภิวัฒน์ ช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มผลกำไร และพัฒนาการสื่อสารภายในองค์กรทั่วโลกได้
บริษัทต่างๆ ทั่วโลกได้รับประโยชน์ในการลดค่าใช้จ่ายในการแปล, ย่นระยะเวลาในการนำสินค้าออกสู่ตลาด, และที่ สำคัญคือลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมและการเดินทาง นอกจากนี้บริษัทได้มองหาวิธีการในการเพิ่มรายได้ จากการขยายตลาด และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจทั่วโลก โดยปรับปรุงการสื่อสาร, ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ตลอดจนกระบวนการต่างๆ สำหรับพนักงาน, คู่ค้าทางธุรกิจ, และลูกค้า ซึ่งหัวใจหลักก็คือ ความสามารถในการขยายระบบ, การเข้าถึงข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายไอพี และการนำเอา application ในการสื่อสารมาใช้งาน อาทิเช่นการประชุมทางไกล ผ่านทางเว็บ, e-learning, การจัดการข้อมูลและการพัฒนาซอฟท์แวร์
ความเป็นองค์กรในยุคโลกาภิวัฒน์ มีความหมายมากไปกว่าแค่การมีสำนักงานสาขาทั่วโลก โดยต้องเป็นองค์กรที่มีการแบ่งปันข้อมูลอย่างไม่มีขอบเขต ตลอดจนการใช้ข้อมูล และกระบวนการต่างๆ อย่างทั่วทั้งองค์กร ในการใช้งานกับทางพนักงาน, คู่ค้าทางธุรกิจ, พันธมิตรและลูกค้า ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นหลักการในการสร้างความเป็นโลกาภิวัฒน์ภายใต้การใช้โซลูชัน
ธุรกิจต่างๆ จำเป็นที่จะต้องสร้างรากฐาน เพื่อที่จะรองรับการเติบโตของธุรกิจ และการปรับตัวเพื่อนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดในทุกภูมิภาค ซึ่งกระบวนการในการปฏิบัตินั้น ต้องมีความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ ทั้งด้านเทคนิค, ด้านการเงิน, การจัดการ, ด้านบุคลากร, และการตัดสินใจด้านการตลาด ทั้งนี้ถ้าไม่มีการเตรียมตัวในกระบวนการต่างๆ เหล่านี้ในระยะเริ่มต้น และถ้าชะลอการดำเนินการมาในส่วนขยายแล้ว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจะสูงมาก หรือจะกล่าวอย่างง่ายๆ ว่า การดำเนินการในขั้นตอนของการขยายระบบ จะใช้ระยะเวลาดำเนินการและงบประมาณมากเป็นสองเท่า เมื่อเทียบกับการเตรียมตัว และดำเนินการในระยะเริ่มต้น
บริษัทที่ประสบความสำเร็จโดยมากแล้ว เนื่องจากการแบ่งปันความรู้ และข้อมูลภายในองค์กรและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้มีการตอบสนองต่อตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีการทำงานแบบเรียลไทม์และ กระบวนการที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างคล่องตัว โดยจะทำให้พันธมิตรทางธุรกิจ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาด และอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ความเป็นนานาชาติและความสำคัญของตลาดในแต่ละประเทศ มีความเกี่ยวข้องตั้งแต่การออกแบบ, การปฏิบัติการ, และการสนับสนุนด้านซอฟท์แวร์ที่ต้องมีการใช้งานกันทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมาก ทั้งทางด้านการทำธุรกิจ และด้านเทคโนโลยีไอทีในเชิงภาษา, สกุลเงิน, เทคโนโลยี, และวัฒนธรรม
การก้าวสู่ความเป็นโลกาภิวัฒน์หมายถึงการคิดใหม่, ทำใหม่และอาจรวมไปถึงการปรับองค์กรเลยทีเดียว โดยบริษัทจำเป็นที่จะต้องมองไกลออกไปในอนาคต และดำเนินการในทุกด้าน เพื่อให้ถึงจุดหมายการสร้าง application ขึ้นมา และมีการแบ่งปันในการใช้งานทั่วโลกนั้น มีความท้าทายอย่างมากในด้านระบบเครือข่ายที่มีความซับซ้อน ซึ่งต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านแบนด์วิธ, ระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย, ความสามารถในการขยายระบบในการที่จะมีการใช้application ร่วมกัน ตลอดจนการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดจากอินเทอร์เน็ต
ความเป็นโลกาภิวัฒน์นั้นครอบคลุมทั้งด้านไอที และส่วนที่ไม่ใช่ไอที เช่นการปรับแต่งซอฟท์แวร์ให้รองรับภาษาต่างๆ ทั้งนี้อินเทอร์เน็ตได้สร้างรากฐานสำหรับการก้าวไปสู่ความเป็นโลกาภิวัฒน์ เนื่องจากมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน ไม่ว่าจะใช้หลักเกณฑ์ใดมาวัด ซึ่งรวมถึงความสามารถในการขยายระบบ, ความเป็นมาตรฐานสากล, และการเข้าถึงในทุกที่ทั่วโลก ไม่ว่าผู้ใช้งานจะเดินทางอยู่ในที่แห่งใด, สาขาที่อยู่ห่างไกล, และทุกคนที่สามารถเปิดเว็บบราวเซอร์ได้
บริษัทที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานได้นั้น โดยมากจะมีกระบวนการด้านธุรกิจที่เชื่อมต่อกับทุกหน่วยงาน และบุคลากรทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ โดยเน้นในส่วนผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นแกนหลักของธุรกิจ และใช้บริการจากภายนอก หรืออาศัยพันธมิตรทางธุรกิจให้ดำเนินการในส่วนอื่นๆ การที่จะประสบความสำเร็จในการทำ e-business นั้น ต้องอาศัยกลยุทธ์ที่ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง และความสามารถในการปรับตัวของโครงสร้างโดยรวม สำหรับธุรกิจแบบ e-business นี้ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์, บริการที่มีการทำงานร่วมกันอย่างไม่มีขอบเขต เพื่อที่จะรองรับระบบเครือข่ายในภาพรวมได้
ปัจจุบันนี้ e-learning ไม่ใช่เพียงการฝึกอบรมแบบออนไลน์แต่เพียงอย่างเดียว แต่ได้รวมไปถึงการส่งข้อมูลในแบบทันทีทันใด, การแบ่งปันข้อมูลและความรู้ระหว่างบุคลากร, ชุมชนที่รวบรวมเอาองค์ความรู้ต่างๆ, บริการสำหรับการเรียนรู้ ส่วนบุคคล, และการจัดการด้านการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ ทั้งนี้บริษัทต่างๆ ทั่วโลกกำลังขยายขีดความสามารถของการทำ e-learning โดยการใช้มัลติมีเดีย และความสามารถบนเว็บ ในการสร้างและจำลองสถานะการณ์ต่างๆ ตลอดจนการรวมเอาการถ่ายทอดเสียงผ่านอินเทอร์เน็ต ในรูปแบบของวิทยุและห้องเรียนเสมือน ที่มีการถ่ายทอดวีดีโอแบบสดๆ
บริษัทที่ก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในยุคโลกาภิวัฒน์นี้จะเห็นว่า การทำ e-learning นั้นคุ้มค่าต่อการลงทุนเป็นอย่างมาก ทั้งทางด้านการประหยัดเวลา, ขจัดปัญหาของระยะทางในการเข้าถึงความรู้และข้อมูลต่างๆ โดยองค์ความรู้จะถูกส่งไปสู่ผู้เรียนทุกเมื่อที่ต้องการ ในทุกสถานที่ และในรูปแบบของภาษาที่ผู้เรียนเลือกได้
การใช้โทรศัพท์, อีเมล์และการส่งข้อความผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นที่นิยมอย่างมากในสำนักงานทุกวันนี้ และในอนาคตอันใกล้นี้ ท่านทั้งหลายจะได้พบกับการประชุมทางไกลผ่านทางเว็บ หรือเรียกว่าเว็บคอนเฟอร์เรนส์ ซึ่งรวมถึงการประชุมทางไกลผ่านวีดีโอ สำหรับการจัดการฝึกอบรม, การสัมมนา, การแถลงข่าวและการเปิดตัวสินค้าใหม่ ตลอดจนการประกาศ และประชาสัมพันธ์ภายในองค์กร
เทคโนโลยีเป็นเพียงตัวต่อเดียวของภาพต่อจิ๊กซอ สำหรับการก้าวสู่ความเป็นโลกาภิวัฒน์ แต่ต้องอย่าลืมว่า ยังมีตัวต่ออื่นอีกมากมายอาทิเช่นบุคลากร, การจัดซื้อ, วัฒนธรรมขององค์กร, ภาษาท้องถิ่นต่างๆ และการเปิดตลาดใหม่ๆ สำหรับลูกค้ากลุ่มต่างๆ ซึ่งเทคโนโลยีเปรียบได้กับกาวที่จะมาเชื่อมต่อตัวจิ๊กซอเหล่านี้เข้าด้วยกัน

iphone เผยโฉมแล้วจ้า










และแล้วในที่สุด สตีฟ จ๊อบ ก็เขย่าโลกวงการ IT อีกครั้งเมื่อ สตีฟ ได้สานฝันให้กับผู้ใช้ทั่วโลกอีกครั้งกับโทรศัพท์มือถือจากค่าย Apple ในนามว่า iPhone ซึ่งเป็นข่าวลือมาอยู่เป็นแรมปี บางคนก็ว่ามั่ว บางคนก็ว่ามีจริง และแล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อสตีฟ จ๊อบ ที่ macworld2007 เมื่อสตีฟเผยโฉมตัวจริงของ โทรศัพท์มือถือจากค่าย Apple วันนี้พวกเราเลยขอพาเพื่อนๆชาวเว็บ jakkajeeclubมาทำความรู้จักกับโทรศัพท์ตัวใหม่และตัวแรกของค่าย Apple ที่ชาวโลกตั้งตารอคอยมาเป็นปีๆ สิ่งแรกที่พวกเราเชื่อว่าทุกๆคนน่าจะคิดเหมือนผมก็คือ " มันสวยจริงๆ ไม่ผิดหวังที่รอ " ขอเริ่มไล่คุณสมบัติของ iPhoneจากข้อมูลที่ทราบให้กันทีละข้อเลยก็แล้วกันนะครับ





1. iPhone มีสองรุ่นราคา 499 เหรียญ สำหรับความจุ Memory ขนาด 4 GB และ ราคา 599 เหรียญสำหรับขนาดความจุ 8 GB ซึ่งจะเริ่มออกจำหน่ายในช่วงเดือน มิถุนายน 2007 นี้ เพราะฉะนั้นยังมีเวลาหยอดกระปุกออมสิน สำหรับใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Apple



2. อุปกรณ์เสริมของ iPhone ที่มีในตอนนี้คือ Stereo headphones, headphones w/ microphone, หูฟัง Bluetooth 3.Quick Switching สลับเปลี่ยนการทำงานได้อย่ารวดเร็ว ปานสายฟ้าแลบ เป็นการเล่าถึงรูปแบบการใช้งานจริงในชิวิตประจำวันของ Iphone เช่นหากเรากำลังฟังเพลงอยู่ มีสาย โทรศัพท์เข้าหน้าจอก็จะสลับเปลี่ยนเพื่อไปรับสาย สามารถส่งภาพถ่ายต่างๆที่เก็บในเครื่องไปทาง email หรืออาจจะเปิดโปรแกรม Safari เพื่อต่อเน็ตเช็ครอบหนังและข้อมูลต่างๆ



4.อัตราการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ หากเป็นการใช้งานด้านโทรศัพท์ /Video และการต่อใช้ Net จะใช้ได้นาน 5 ชม แต่หากเป็นการใช้งาน ด้านฟังเพลงจะได้ 16 ชม



5. ไม่น่าเชื่อว่า สตีฟ จ๊อบ จะนำคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Google และ Yahoo มาอยู่รวมกันได้ใน iPhone ซึ่ง Jerry Yang แห่ง Yahoo Eric Schmidt จาก Google นำเสนอ Service ทั้งสองค่ายมารวมกันไว้ใน iPhone งานนี้มีแต่ Win Win ว่าไหม? แต่ทำไมไม่เชิญ ซี้เก่า อย่าง Bill Gate มาร่วมใน service ของ iPhone ด้วยนะ ถ้านำมารวมได้หมด พวกเราว่าเราอย่าไปซื้อมาใช้เลยครับ รับรองว่า Hang กระจายแน่ !! เพราะเสือสามตัวอยู่ถ้ำเดียวกันแบบนี้ อันตราย จริงๆ ๆ



6. iPhone มี Google Map ในลักษณะเดียวกันกับบน PC



7.iPhone: Widgets ในเครื่อง iPhoneนั้นสามารถลงโปรแกรมประเภท Widget

8.iPhone สามารถเชื่อมต่อเน็ตเพื่อเข้าชมเว็บไซด์ต่างๆได้ ด้วยโปรแกรม Browser อย่าง Safari9.การใช้งาน Internet สำหรับ iPhone สามารถต่อผ่านได้ทั้ง EDGE และ Wi-Fi โดยมี service ที่สามารถเลือกใช้งานได้เช่น



- Rich HTML: Any IMAP or POP.- Safari on the phone.- Google Maps: Sat directions, traffic, and maps.



- Widgets: Weather and stocks.



- Everything goes over EDGE or WI-Fi, which switches "seamlessly" when the phone detects Wi-Fi.- Yahoo Mail will provide free push IMAP email for all customers.